การจัดวางปี่เซียะ
วางปี่เซียะไว้คู่กัน โดยให้เพศเมียที่ก้าวเท้าขวาอยู่ด้านขวา เพศผู้ที่ก้าวเท้าซ้ายอยู่ด้านซ้าย ให้ตั้งเป็นคู่โดยให้หันก้นชนกันเป็นรูปอักษรตัว V เท้าทั้ง 2 ข้าง จะขนาบอยู่ด้านนอก และนำส่วนหางมาชิดกันไว้ หันหน้าไปทางประตูหรือหน้าต่าง ทิศตะวันออกคือทิศที่ดีที่สุด และควรวางไว้ในที่สูงพอสมควร แต่ไม่ควรวางไว้บนหิ้งพระหรือปะปนกับเครื่องรางสัตว์มงคลอื่น ๆ
ของบูชาปี่เซียะ
1. ขนมจันอับ ชาวจีนเรียก โหงวเส็กทึ้งแต่เหลียง แปลว่าขนม 5 สี (แทนเบญจธาตุ)
2. ผลไม้มงคล อาทิ
- ส้ม ชาวจีนเรียกว่า กา หรือไต้กิก หมายถึง เป็นมงคลยิ่ง โชคดี
- องุ่น ชาวจีนเรียกว่า ผู่ท้อ หมายถึง งอกงาม เจริญ
- สัปปะรด ชาวจีนเรียกว่า อั่งไล้ หมายถึง มีโชคมาหา
- กล้วย ชาวจีนเรียกว่า เฮียงเจีย หมายถึง มีลูกหลานสืบสกุล
- ลูกท้อ ชาวจีนเรียกว่า ท้อ หมายถึง ผลไม้สวรรค์ อายุยืน
- ทับทิม ชาวจีนเรียกว่า เสียะลิ้ว หมายถึง ผลไม้สวรรค์ มีความอุดมสมบูรณ์
2.ระวังอย่าให้คนอื่นมาจับลูบคลำปีเซียะของท่าน เนื่องจากลาภเคยได้จะถูกแบ่งออกไป
3.ห้ามเดินข้ามหรือวางไว้ที่ต่ำ หรือห้องเก็บของ ห้องน้ำ
4.ห้ามพกพาปีเซียะไปงานศพ เพราะจะซึมซับพลังไม่ดี
5.ห้ามลูบปากเพราะจะทำให้เก็บทรัพย์ไม่อยู่
ประวัติปี่เซียะ
ปี่เซียะ (สำเนียงแต้จิ๋ว) หรือ ผีซิว (สำเนียงกลาง) นั้นเชื่อกันว่าเป็นลูกตัวที่ 9 ของมังกร มีอิทธิฤทธิ์และความกล้าหาญ มีไว้ป้องกันพวกปีศาจและสิ่งชั่วร้าย โดยจะอยู่คุมทิศทั้ง 4 ของประตูสวรรค์
ปี่เซียะเกิดจากการรวมกันของธาตุทั้ง 5 คือ สรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาร ดิน / ทอง / น้ำ / ไม้ / ไฟ
1. (หัว) มังกร ธาตุ ไม้ ตัวแทนแห่ง อำนาจ บารมี ลาภยศ ชื่อเสียง
2. (ปีก) อินทรี ธาตุ ไฟ ความเป็นผู้นำ ความกว้างไกลสง่างาม มีวิสัยทัศ กว้างไกล
3. (ตัว) กวาง ธาตุน้ำ ความมั่งคั่ง ร่ำรวยสวยงาย ความยั่งยืน
4. (ดวงตา) แมว ธาตุดิน แมวมีดวงตาทิพ มองเห็นปีศาจในตอนกลางคืน ได้หางสามารถกวาดโชคลาภเข้าบ้านได้
5. (กรงเล็บ) สิงโต ธาตุทอง ราชาแห่งสัตว์ทั้งปวง อำนาจความน่าเกรงขาม ความเป็นผู้นำ
สาเหตุที่ปี่เซียะไม่มีรูทวาร นั้นเป็นเพราะ มีวันหนึ่งมานั่งตักของ เง็กเซียนฮ่องเต้ แล้วก็ถ่ายเลอะ เง็กเซียน เลยตบทวาร 3 ที รูทวารก็เลยปิด ทำให้กลายเป็นสิ่งนำโชคสำหรับคนทึ่ทำการค้า เก็บเงิน เก็บทองไม่รั่วไหล มีแต่ไหลเข้าไม่มีไหลออก
มีตำนานเล่าขานในทางมงคลถึง "ปี่เซียะ" มากมายโดยเฉพาะเรื่องราวในยุคต้นราชวงศ์ “ชิง” (ราชวงศ์แมนจู) เล่ากันว่า เมื่อยุคเฉียนหลงฮ่องเต้ ครั้งยังเป็นองค์รัชทายาท เรียกกันว่า “องค์ชายสี่” มีนักพรตท่านหนึ่งนำ "ปี่เซียะ" มามอบให้ โดยกำชับให้หมั่นดูแลทะนุถนอม ปี่เซียะจักคุ้มครอง ปกป้องภัย และส่งพลังให้ขึ้นสู่ราชบัลลังก์ ซึ่งองค์ชายสี่ก็ได้ทำตามนั้น จวบจนต่อมาได้ขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงพระราชทานยศตำแหน่งแก่ ปี่เซียะ นาม “เทียนลู่” (บารมียศแห่งสวรรค์) และอยู่คู่เฉียนหลงฮ่องเต้ตลอดรัชสมัย 60 ปีที่ครองราชย์ ซึ่งนับเป็นระยะเวลาแห่งการครองราชย์อันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน